บริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

เว็บ E-commerce และการขายของออนไลน์ในไทยกำลังเฟื่องฟู ถ้าเว็บธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณไม่ได้ใช้ E-commerce SEO อย่างมีประสิทธิภาพ คุณอาจพลาดโอกาสดี ๆ ไป แต่บริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ของ Digital Search Group ช่วยคุณได้ ร้านออนไลน์ของคุณจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน รับประกันได้เลย

รับทำ seo เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

Get in Touch

เพิ่มพลังให้ธุรกิจด้วยผลลัพธ์อันทรงพลังของ eCommerce SEO

พลังของ E-commerce SEO สามารถสร้างความแข็งแกร่งแก่ธุรกิจในโลกออนไลน์ได้ ธุรกิจในไทยที่ยอมรับการทำ SEO อีคอมเมิร์ซ เพื่อให้ได้อันดับสูงในเครื่องมือค้นหา (search engine) ปริมาณการเข้าชมหน้าเว็บแบบออร์แกนิกและยอดขายก็จะเพิ่มขึ้นได้อย่างมาก และยังมีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ยังล้าหลังไม่ทันคู่แข่ง แถมยังไม่ลงมือทำอะไร คุณอาจจะกำลังพลาดโอกาสดี ๆ ไป

เอเจนซี่ SEO E-commerce อย่าง Digital Search ประเทศไทย ขอเป็นส่วนเสริมสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณ เราเชื่อว่าบริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ คือ วิธีที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างการมองเห็นออนไลน์ให้แก่เว็บ E-commerce ช่วยปลดล็อกช่องทางการขายออนไลน์ เพื่อให้มีผลกำไรและประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นได้

บริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอันทรงพลัง & กลยุทธ์การทำ SEO เพื่อจุดประกายยอดขาย

ความทรงพลังของ SEO E-commerce มาจากความสามารถในการสร้างยอดขายและรายได้ที่แน่นอนให้กับธุรกิจของคุณ บริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของเราทำสิ่งนี้โดยการสร้างกลยุทธ์ SEO ของอีคอมเมิร์ซที่มีพื้นฐานมากจากความต้องการของทั้ง search engines และความชื่นชอบของลูกค้า เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าคุณจะใช้เว็บ e commerce แบบใด Shopee หรือ Lazada ก็สามารถได้รับประโยชน์จากบริการรับทำ SEO เว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซ จาก Digital Search Group ประเทศไทยได้ทั้งนั้น เรารับประกันได้ด้วยประการณ์จากทีมงานมืออาชีพทั้งหมดที่เรามี

ติดต่อเรา

เอเจนซี่ E-commerce SEO ของเรามีตัวอย่างผลงานที่ประสบความสำเร็จมากมาย

ทีมงานมืออาชีพของเรามีประสบการณ์อย่างมากในการจัดหาบริการ E-commerce SEO ให้เหมาะสม กับ เว็บ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไม่ว่าจะอยู่ในภูมิภาคใดก็ตาม ทั้งไทย ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา และอื่น ๆ เรายินดีที่จะแบ่งปันความเชี่ยวชาญของเราให้กับลูกค้า ‘กลุ่มเป้าหมาย’ อย่างคุณ ติดต่อเราได้เสมอหากคุณอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ SEO Ecommerce

บริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของเรา ครอบคลุมกลยุทธ์การตลาด SEO E-commerce ที่จำเป็นทั้งหมด

สมมติว่าคุณเป็นแบรนด์อีคอมเมิร์ซที่จัดตั้งขึ้นในไทยและกำลังมองหาแนวทางใหม่หรือบริษัทอีคอมเมิร์ซที่เริ่มต้นใหม่ ซึ่งมีแนวคิดและความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้าที่จะครองตลาดไทย ในกรณีนี้ เรารู้สึกว่าเรามีสิ่งพิเศษที่จะนำเสนอให้คุณได้ เราจะนำคุณค่าบางอย่างมาทำสิ่งที่ครอบคลุม การตรวจสอบทางเทคนิค SEO ไปจนถึงการสร้างเนื้อหาที่มีส่วนร่วมซึ่งดำเนินการใน SERP ไปจนถึงแนวทางการสร้างลิงก์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล กลยุทธ์ SEO สำหรับเว็บ E-commerce ที่ครอบคลุมและใช้งานได้จริง เราทำสิ่งนี้มานานกว่า 15 ปีแล้ว ดังนั้นเราจึงเข้าใจความซับซ้อนของอีคอมเมิร์ซ และทำให้แน่ใจได้ว่าบริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ มีส่วนประกอบที่จำเป็นทั้งหมดที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จในโลกของการขายออนไลน์ได้ น่าสนใจใช่ไหม? เรายินดีจะพูดคุยกับคุณ ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจร่วมงานกับเราหรือไม่ เรารับประกันว่าจะให้ข้อมูลเชิงลึกและมุมมองที่มีคุณค่าแก่คุณ

การทำ Keyword Research ที่กระชับและเจาะลึกอย่างละเอียดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จของ กลยุทธ์ SEO สำหรับอีคอมเมิร์ซ อาจเป็นงานวิจัยที่มีค่าที่สุดชิ้นหนึ่งที่คุณเคยลงทุน การใช้ Keywords จำนวนมากและปริมาณการค้นหารายเดือนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ e commerce ของคุณแสดงถึงความรู้และข้อมูลเชิงลึกของตลาดในอุตสาหกรรมของคุณ เป็นรากฐานที่สำคัญของบริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ บริการวิจัยคีย์เวิร์ด อีคอมเมิร์ซของเราเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์ SEO E-commerce ประสิทธิภาพดี ความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์อาจคาดเดาได้ยาก แต่การทำ Keyword Research ของเราสามารถช่วยคุณให้พบคำค้นหา SEO ยอดนิยมซึ่งรวมอยู่ในกลยุทธ์ SEO E-commerce ติดต่อเราเพื่อศึกษาเพิ่มเติม

หากคุณเคยประสบปัญหาการสร้างความเข้าใจด้านการตรวจเว็บไซต์ หรือเพียงแค่ต้องการแผนการดำเนินการ SEO ของเว็บ E-commerce เราขอนำเสนอ บริการตรวจสอบ SEO ด้านเทคนิค ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ เราจะวิเคราะห์โครงสร้างไซต์และเนื้อหาของคุณ จากนั้นให้คำแนะนำและแผนดำเนินการที่ชัดเจน ซึ่งคุณสามารถเริ่มเข้าสู่กลยุทธ์ SEO ของอีคอมเมิร์ซได้ทันที

เมื่อพูดถึงการเพิ่มการเข้าชมแบบออร์แกนิก ไม่มีการตลาดใดเหมือนการทำการตลาดด้วยเนื้อหาประสิทธิภาพสูง บริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของเราที่ครอบคลุม กลยุทธ์เนื้อหา SEO อีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลสำหรับการโปรโมทเว็บไซต์ให้สำเร็จ เครื่องมือค้นหาอย่าง Google จะมองเห็นเว็บไซต์ SEO E-Commerce ที่ทุ่มเทอย่างหนักได้อย่างง่ายดาย ผู้ที่ทำงานหนักที่สุด (และฉลาดที่สุด!) รับประกันได้เลยว่าจะได้เป็นผู้นำของกลุ่ม

ในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลอีคอมเมิร์ซในหลาย ๆ องค์กร ทีมงานของเราจะใช้ปัจจัยส่วนสำคัญอย่างเช่น Meta tag ในการเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้าง URL และปรับปรุงชื่อแท็ก ความพยายามเหล่านี้จะเพิ่มอัตราการแปลง และเพิ่ม search engine rankings ของคุณโดยทันที อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ SEO ที่ประสบความสําเร็จนั้นซับซ้อน ซึ่งบริษัทการตลาดอีคอมเมิร์ซเช่นเราจะไม่ปล่อยโอกาสในการไต่อันดับบน search engine ของเว็บไซต์ E-commerce ของคุณต้องสูญเปล่า

ในโลกของ SEO E-commerce มีการแข่งขันสและการใช้จ่ายสูง จึงทำให้แบรนด์อีคอมเมิร์ซใหม่ยากที่จะมีส่วนร่วม บริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มระดับการดำเนินการโดยนำเสนอบริการสร้างลิงค์ อีคอมเมิร์ซที่ครอบคลุม ซึ่งใช้งานได้จริงซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับกลยุทธ์เนื้อหาอีคอมเมิร์ซที่ประสานกันเป็นอย่างดี

กว่า 15 ปี ของประสบการณ์ด้านการตลาด offsite เรามุ่งเน้นในกลยุทธ์การสร้างลิงก์อีคอมเมิร์ซที่ออกแบบมาเพื่อให้มีผลต่อผู้มีอิทธิพล และสร้างลิงก์ไปยังเว็บธุรกิจของคุณจากทุกมุมที่เหมาะสมที่สุดของเว็บ ผลลัพธ์นี้จะทำให้เกิดผู้เข้าชมที่สูงขึ้น คำสั่งซื้อก็มากขึ้น และรายได้ของคุณก็มากขึ้นเช่นกัน

สร้างรายได้มากขึ้นด้วยบริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

เมื่อกล่าวถึงการวัดความสำเร็จของกลยุทธ์ SEO การรายงานที่ถูกต้องและทันเวลาเป็นสิ่งสำคัญของเรา SEO บริการต่างๆ อาศัยการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนและแม่นยำ คุณสบายใจได้เลยเราจะรับผิดชอบต่อบริการของคุณที่ซื้อไปจากเราในพื้นที่นี้ ความโปร่งใสคือความแตกต่างระหว่างบริษัทการตลาดอีคอมเมิร์ซ และบริษัท SEO E-commerce ที่จัดตั้งขึ้น เช่น Digital Search Group ประเทศไทย

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในไทยหลายสิบรายไว้วางใจบริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของเรา ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี เรารอบรู้และพร้อมนำคุณไปหน้าแรกของ Google วางใจในความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและความรอบรู้ของเราเป็นหนึ่งในการเริ่มต้นที่ดีที่สุด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ บริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

โลกของ SEO อีคอมเมิร์ซนั้นเต็มไปด้วยบริษัทที่สัญญาไว้ดิบดีแต่กลับทำไม่ได้อย่างที่บอกไว้ ดังนั้นคุณต้องไว้วางใจบริษัท SEO อีคอมเมิร์ซที่มีประวัติการทำงานมานาน มั่นคง ให้บริการการรายงานและการตรวจสอบที่แม่นยำ และสามารถจัดทำแผน SEO ที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และดำเนินการได้สำหรับธุรกิจของคุณ

การทำ SEO เป็นสิ่งที่ซับซ้อน และความซับซ้อนเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อมันมาพร้อมกับ SEO อีคอมเมิร์ซ เนื่องจากขนาดและการทำงานภายในที่ซับซ้อนกว่าจะประกอบเป็นร้านอีคอมเมิร์ซได้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการเลือกบริษัท E-commerce SEO ที่เชี่ยวชาญด้าน SEO E-commerce ที่มาพร้อมกับประวัติผลงานที่พิสูจน์แล้วว่าดีจึงสำคัญ ลักษณะทางเทคนิคของ SEO อีคอมเมิร์ซ และการให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามแนวทางมีมากกว่าสิ่งที่ใช้กับเว็บไซต์โบรชัวร์ WordPress ทั่วไป เว็บไซต์โบรชัวร์ไม่จำเป็นต้องจัดการกับข้อผิดพลาดทางเทคนิคของอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ เช่น การแบ่งหน้าที่จัดทำดัชนีหรือการใช้คีย์เวิร์ดร่วมกัน ซึ่งปรากฏในหน้าหมวดหมู่ที่จัดทำดัชนีหลายสิบหน้าและหน้าผลิตภัณฑ์หลายพันหน้า หากคุณกำลังมองหาเอเจนซี่ SEO E-commerce มากประสบการณ์หลายทศวรรษ โปรดโทรหาเราที่ Digital Search Group ประเทศไทย วันนี้

เมื่อพูดถึงวิธีบรรลุเป้าหมายการตลาดออนไลน์ของคุณ คงมีแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับ SEO อีคอมเมิร์ซอยู่มากมาย และด้านล่างนี้คือเคล็ดลับสองสามข้อที่อาจเป็นประโยชน์ต่อกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซของคุณ

  1. สร้างคำอธิบายผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ & กำจัดเนื้อหาที่ซ้ำกับคนอื่นทิ้ง – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเปิดตัวเว็บ E-commerce ของคุณด้วยคำอธิบายผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ หากหน้าสินค้าหรือบริการของคุณใช้เนื้อหาที่คัดลอกมาจากเว็บไซต์อื่นโดยตรง หน้าสินค้าหรือบริการดังกล่าวจะไม่อยู่ในอันดับต้น ๆ ใน Google นอกจากนี้ รูปแบบของเนื้อหาที่ซ้ำกับเว็บภายนอกจะส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ SEO E-commerce โดยรวมของเว็บไซต์ จริงอยู่ที่การเขียนคำอธิบายสินค้าหรือบริการให้มีเอกลักษณ์เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลามาก แต่ผลตอบแทนในระยะยาวที่จะได้รับก็มหาศาลเลยทีเดียว
  2. ดูแลหน้าหมวดหมู่ที่จัดทำดัชนีแล้ว – เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่จะแสดงผลิตภัณฑ์จำนวนมากในหมวดหมู่แยกผลิตภัณฑ์เป็นหลาย ๆ หน้า ดังนั้นจึงมีชุดของผลิตภัณฑ์ที่ปรากฏในแต่ละหน้าภายในหมวดหมู่นั้นเป็นจำนวนมาก การแบ่งหน้าหมวดหมู่เป็นวิธีที่แพร่หลายสำหรับร้านอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่ที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการที่มีจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้อาจส่งผลเสียต่อกลยุทธ์ SEO E-commerce หากไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง ซึ่งข้อผิดพลาดมักจะเกิดขึ้นจากการซ้ำกันของเนื้อหาภายใน ซึ่งอยู่ภายใต้หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ และถูกจัดทำเป็นดัชนี เช่น หน้าที่ 2 ถึงหน้า 7 ซึ่งหมายความว่าจะมีหน้าหมวดหมู่หลักของคุณที่ซ้ำกันถึง 6 เวอร์ชันในจัดหน้าดัชนีของ Google และทั้งหมดกำลังแข่งขันกันเอง และแบ่งปันเนื้อหาเดียวกัน สิ่งนี้ทำให้เกิดความสับสนภายในอัลกอริธึมการจัดอันดับ ซึ่งเรามักจะเห็นการจัดอันดับหน้าหมวดหมู่หลักลดลง เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดควรแบ่งหน้าหรือหยุดตั้งแต่ต้น อันดับแรก คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า Google ไม่สามารถจัดทำดัชนีหน้าที่ใส่เลขหน้าได้ (หน้า 2 ถึง 7) บางบริษัทอีคอมเมิร์ซ แนะนำให้ใช้ “rel=next” และ “rel=prev” แท็กไว้ อย่างไรก็ตามวิธีที่แน่นอนกว่านั้นคือการใช้ ในหน้าที่มีการแบ่งหน้าทั้งหมดภายในเว็บ E-commerce ของคุณ สิ่งนี้จะทำให้แน่ใจว่าหน้าที่มีเลขหน้าจะถูกบล็อกทั้งหมดจากการจัดทำดัชนีอีกครั้ง และหาก Google จัดทำดัชนีหน้าที่มีการแบ่งหน้าแล้ว คุณสามารถลบออกจากดัชนีของ Google ได้โดยใช้เครื่องมือลบ URL ที่พบในบัญชี Google Search Console ของเว็บไซต์ของคุณเมื่อคุณเพิ่มแท็ก “noindex” แล้ว

หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับ เคล็ดลับ SEO E-commerce ด้านบนและอยากทำงานร่วมกับบริษัท SEO E-commerce มากประสบการณ์หลายสิบปี โปรดติดต่อ Digital Search ประเทศไทย วันนี้

ข้างล่างนี้เป็นรายชื่อเครื่องมือที่บริษัท SEO E-commerce ส่วนใหญ่ใช้กัน ซึ่งเป็นเครื่องมือฟรีในการทำ SEO และสามารถช่วยสร้างกำไรให้เว็บธุรกิจหรือการตลาด ของคุณได้จริง มีดังต่อไปนี้

  • Google Analytics: เครื่องมือวิเคราะห์เว็บ E-commerce ขั้นสูงสุด

Google Analytics เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ดีที่สุดที่มีให้สำหรับเจ้าของธุรกิจ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในบริการ SEO E-commerce Google Analytics จะบันทึก วิเคราะห์ และแสดงภาพสถิติของเว็บธุรกิจเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต ด้วยการติดตามอีคอมเมิร์ซที่เปิดใช้งานในบัญชีของคุณ คุณสามารถวัด Conversion ลูกค้าเป้าหมายหรือตรวจสอบเว็บไซต์ของคุณแบบเรียลไทม์ด้วยรายงาน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมใด เราแนะนำให้ใช้ Google Analytics เป็นหนึ่งในเครื่องมือ SEO ที่ดีที่สุดสำหรับการวัดและปรับปรุงประสิทธิภาพบนเว็บ E-commerce ของคุณ

  • Google Search Console: การแจ้งเตือนและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพ SEO ของอีคอมเมิร์ซของคุณ

เครื่องมือที่เราแนะนำให้ใช้คือบริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ของ Digital Search Group ประเทศไทย แต่สำหรับ Google Search Console นั้นถือเป็นบริการฟรีที่น่าสนใจนำจาก Google ซึ่งช่วยให้คุณตรวจสอบ รักษา และแก้ไขปัญหาของเว็บไซต์ E-commerce คุณในผลการค้นหาของ Google ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับเจ้าของเว็บ E-commerce ที่ต้องการอันดับที่ดีขึ้นใน search engines ข้อดีของการใช้บริการนี้มีมากมาย อาทิ ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า Google สามารถค้นหาและรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ E-commerce ของคุณได้ แก้ไขปัญหาการจัดทำดัชนีและขอสร้างหรืออัปเดตดัชนีเนื้อหาใหม่ ดูข้อมูลการเข้าชมสำหรับไซต์ของคุณ (ความถี่ที่ไซต์ของคุณปรากฏในการค้นหาของ Google ข้อความค้นหาใดปรากฏในหน้าแรก เป็นต้น) รับการแจ้งเตือนเมื่อ Google พบปัญหา SEO ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำดัชนี สแปม ฯลฯ

  • Google PageSpeed ​​​​Insights: เพิ่มความเร็วและ User Experience ให้ร้านค้าอีคอมเมิร์ซของคุณ

เนื่องจากการใช้อุปกรณ์มือถือเพิ่มขึ้นทั่วโลก เว็บไซต์ E-commerce ของคุณทำอย่างไรเมื่อการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ SEO ของ Google Google PageSpeed ​​Insights (PSI) เป็นเครื่องมือฟรีที่จะช่วยให้นักการตลาดดิจิทัลและผู้จัดการอีคอมเมิร์ซเข้าใจว่าเว็บไซต์ของตนทำงานอย่างไรทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อป นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลปฏิบัติการที่เป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาด้านประสิทธิภาพ เนื่องจากข้อมูลถูกรวบรวมในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม ข้อมูลภาคสนามมีค่าอย่างมากสำหรับนักการตลาดดิจิทัลที่ต้องการให้ user experience ของเว็บไซต์มีประสิทธิภาพ และรายงาน PSI ก็ให้คำแนะนำวิธีปรับปรุงความเร็วของหน้าเว็บและ user experience ได้อย่างดี คำแนะนำมีตั้งแต่การลบการเปลี่ยนเส้นทางและการแสดงผลการบล็อก JavaScript ไปจนถึงการใช้สคริปต์แบบอะซิงโครนัสหรือเลื่อนออกไปจนกว่าจะถึง DOMContentLoaded หากทั้งหมดนี้ฟังดูเป็นเทคนิคที่ยากเกินไปสำหรับคุณ โปรดติดต่อบริษัท SEO E-commerce ของเราและสามารถพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเราโดยตรง

บริการรับทำ SEO เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเป็นรูปแบบการตลาดที่คุ้มค่าและกลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับบริษัทในไทยที่ต้องการทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนปรากฏบน search engines SEO อีคอมเมิร์ซทำให้คุณเข้าถึงผู้ชมเป้าหมายของคุณโดยเน้นที่ Keyword ที่พวกเขาใช้และเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณด้วย Keyword เหล่านั้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการขับเคลื่อนการตลาดดิจิทัล ซึ่งสามารถช่วยคุณประหยัดเงินในส่วนอื่น ๆ เพื่อให้คุณสามารถลงทุนไปกับการขยายธุรกิจของคุณได้!

Google ไม่ใช่หน่วยงาน SEO พวกเขาเป็นเพียงเครื่องมือค้นหา หรือ Search engine อย่างไรก็ตาม พวกเขาทำเงินได้มหาศาลจากโฆษณา Google โดยไม่เปิดเผยความลับอันเป็นกรรมสิทธิ์ของ “อัลกอริธึม” ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่พวกเขาใช้ตัดสินว่าบริษัทใดควรมีอันดับสูงหรือต่ำในเครื่องมือค้นหา บริษัท SEO E-commerce ต้องพึ่งพาประสบการณ์ เครื่องมือ และความเชี่ยวชาญด้านการทำ SEO ที่มุ่งเน้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ด้วยการทำให้เว็บธุรกิจอยู่หน้าแรกของการค้นหาใน Google

Google Ads มักจะมีประสิทธิภาพสำหรับบริษัท E-commerce แต่การจัดอันดับแบบ organic search เป็นเป้าหมายระยะยาวที่ดีกว่า การใช้ SEO E-commerce ไม่ใช่การแก้ไขในชั่วข้ามคืน แต่ความสามารถของ SEO ในการสร้างผู้เข้าชมแบบออร์แกนิกสำหรับเว็บไซต์ E-commerce สามารถทำกำไรได้มากกว่าในระยะยาว ด้วยกลยุทธ์ SEO E-commerce คุณไม่จำเป็นต้องพึ่งพาบริการ Google Ads เพื่อสร้างยอดขายให้กับธุรกิจของคุณเลย

ในฐานะเจ้าของเว็บไซต์ E-commerce คุณทราบดีว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในอีคอมเมิร์ซจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์การทำ SEO ในการนำมาซึ่ง organic search ที่ฟรีและ paid search ที่เสียค่าใช้จ่าย ด้านล่างนี้คือ 8 ขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้เพื่อเริ่มเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณด้วยกลยุทธ์ SEO E-commerce ที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ ดังต่อไปนี้

  • Keyword research – อันดับแรก เราต้องหา Keyword เป้าหมายของเรา นี่คือจุดที่ Keyword research มีประโยชน์! ขั้นตอนนี้จะทำให้เราค้นหาคีย์เวิร์ดสำคัญที่ลูกค้าใช้เมื่อทำการค้นหาทางออนไลน์ เพื่อให้เรามุ่งเน้นไปที่คำเหล่านั้นตลอดกระบวนการ SEO E-commerce ที่เหลือของเรา รวมถึงการเข้าไปมีส่วนเพิ่มคุณภาพ Meta และการสร้างเนื้อหา
  • Site Architecture – ต่อไปเรามาพูดถึงการออกแบบโครงสร้างของเพจของเรากัน นี่เป็นกระบวนการวางแผนที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับการพัฒนาลำดับชั้นของ keyword ควบคู่ไปกับการพัฒนาหน้าหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์หลัก ซึ่งจะเป็นที่เก็บผลิตภัณฑ์ร้านค้า E-commerce ของคุณ
  • On-Page SEO – ขั้นตอนต่อไปในกลยุทธ์ SEO E-commerce ของเราคือการมุ่งเน้นที่เนื้อหาจริงของเว็บไซต์คุณ ซึ่งสำคัญต่อการผสมผสานความเกี่ยวข้องของ keyword ลงในหน้าร้านค้าออนไลน์ของคุณ ขั้นแรก มาพูดถึงการเพิ่มประสิทธิภาพเมตา – รวมถึงการเลือก keyword และ keyword phrase อย่างระมัดระวังเพื่อใช้ในแท็กข้อมูลเมตาทั้งหมด รวมถึงชื่อ คำบรรยาย สรุปและคำอธิบายสำหรับหน้าหลักที่คุณต้องการจัดอันดับ นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการใช้ schema markup ซึ่งทำให้ search engine เข้าใจข้อมูลที่นำเสนอได้ดียิ่งขึ้น
  • Technical e Commerce SEO – พูดง่ายๆ ก็คือ การนำ SEO E-Commerce เชิงเทคนิคไปใช้นั้นเป็นการทำให้แน่ใจว่า search engine สามารถรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระมัดระวังในการลดจำนวนการเปลี่ยนทิศทางและกำหนดค่าปัญหาต่าง ๆ ของเว็บเซิร์ฟเวอร์ URL ที่มี keyword จำนวนมากที่จะช่วยในการจัดทำดัชนี และพยายามใส่ Keyword ที่เจาะจงลงในชื่อหน้าและเมตาแท็กเท่าที่เป็นไปได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อนี้ โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อสมาชิกในทีมของเรา
  • Local e Commerce SEOLocal SEO เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มปริมาณการเข้าชมแบบออร์แกนิกในพื้นที่มายังเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งรวมถึงการใช้การกำหนดเป้าหมายตามภูมิศาสตร์ในแคมเปญ Google Adwords การวิเคราะห์การแข่งขันของ Keyword สำหรับพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง และการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาของหน้าโดยคำนึงถึง keyword เหล่านั้น นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการใช้ schema markup ซึ่งทำให้ search engine เข้าใจข้อมูลที่นำเสนอได้ดียิ่งขึ้น กลยุทธ์นี้จะมีผลก็ต่อเมื่อคุณมีสถานที่ตั้งจริงซึ่งคุณสามารถยืนยันกับ Google ได้
  • e Commerce SEO Content marketingContent marketing เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สามารถนำมาใช้ร่วมกับ SEO E-commerce เพื่อปรับปรุงคะแนนเว็บไซต์ การมองเห็น และอันดับของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มคุณภาพการเข้าชมให้กับเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งได้จาก Google’s organic listings Content marketing มีมานานหลายทศวรรษแล้ว แต่ประสิทธิภาพและความนิยมของมันเพิ่มมากขึ้นจากช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Twitter และ Instagram
  • การสร้างลิงก์ SEO E-commerceการสร้างลิงก์เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับกลยุทธ์ SEO ของอีคอมเมิร์ซที่ประสบความสำเร็จ เป้าหมายหลักของการสร้างลิงค์ภายใน SEO E-commerce คือ การสร้างความเป็นธรรมชาติของลิงค์คุณภาพสูงจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมหน้าหลักที่คุณต้องการจัดอันดับ นอกจากนี้ การสร้างเนื้อหาที่สอดคล้องกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างตัวเองให้มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมเดียวกัน จะสามารถช่วยบรรลุวัตถุประสงค์นี้ได้เป็นอย่างมาก
  • การวัดความสำเร็จของ SEO อีคอมเมิร์ซ – การวัดความสำเร็จของความพยายามในการทำ SEO อีคอมเมิร์ซเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยจะช่วยให้มั่นใจว่าคุณจดจ่ออยู่กับสิ่งจำเป็นที่ได้ทำแล้ว และมันได้ผลลัพธ์ดีมากน้อยแค่ไหน ที่จะช่วยคุณระบุส่วนต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องปรับปรุง เครื่องมือที่น่าเชื่อถือที่สุดในการวัดประสิทธิภาพของกลยุทธ์ SEO อีคอมเมิร์ซ คือการใช้ Google Analytics หรือเครื่องมือยอดนิยมอื่นๆ เช่น AHREFs และ SEMrush

รู้หรือไม่ว่าเหตุผลที่ JavaScript นั้นแย่มากสำหรับ SEO สำหรับ e commerce คืออะไร ? ก่อนอื่น เรามาพูดถึงสิ่งที่ JavaScript ทำกัน เมื่อ seach engine ดาวน์โหลดเอกสารบนเว็บและเริ่มวิเคราะห์ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการทำความเข้าใจประเภทเอกสาร น่าเสียดายที่ JavaScript ทำให้กระบวนการนี้ซับซ้อนด้วยการเปลี่ยนวิธีที่โค้ด HTML ของเบราว์เซอร์ ดังนั้นเมื่อบอทของ Google รวบรวมข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณเพื่อค้นหา keyword และเนื้อหาที่น่าสนใจสำหรับผู้เยี่ยมชมเพื่อจัดอันดับคุณให้สูงขึ้นใน SERPS (หน้าผลลัพธ์ของ search engine) อาจไม่สามารถอ่านทุกอย่างบนหน้าเว็บของคุณได้เนื่องจาก JavaScript ขัดขวางความสามารถในการถอดรหัสความหมายของแต่ละองค์ประกอบ

ดังนั้นหากเว็บไซต์ eCommerce ของคุณมีเนื้อหามากกว่าชีวิตของ William Shakespeare ก็มีโอกาสที่ Google อาจมีปัญหาในการแสดงหน้าเว็บของคุณในขณะเดียวกันก็มีปัญหาเรื่องความเร็วด้วย ทั้งสองอย่างนี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการทำ SEO e commerce อย่างมาก

การจัดอันดับให้ผล organic search ดีขึ้นเริ่มต้นและสิ้นสุดด้วย SEO หากคุณมีเว็บไซต์ e commerce คุณจะรู้อย่างไม่ต้องสงสัยว่ามีการแข่งขันสูง สิ่งนี้ทำให้การลงทุนใน SEO จำเป็นสำหรับเว็บไซต์ e commerce ข้อควรจำ: SEO ไม่ใช่การแก้ไขในชั่วข้ามคืน และแคมเปญ SEO ที่ประสบความสำเร็จจะต้องทำงานเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด

SEO อีคอมเมิร์ซเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและเห็นผลจริงสำหรับบริษัททุกขนาด ต้นทุนจะขึ้นอยู่กับขอบเขตของบริการที่คุณต้องการ การทำ SEO อีคอมเมิร์ซ ของเราจะทำงานร่วมกับบริษัทของคุณเพื่อกำหนดช่วงของบริการที่คุณต้องการและหารือเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย

SEO E-commerce มีประโยชน์สำหรับเว็บธุรกิจอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่ และการทำ SEO อีคอมเมิร์ซ ไม่มีปัญหาในการกำหนดกลยุทธ์ SEO อีคอมเมิร์ซสำหรับบริษัทของคุณ ไม่ว่าคุณจะใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใดก็ตาม

การทำ SEO อีคอมเมิร์ซ ไม่ควรถูกมองว่าเป็น “การแก้ไขด่วน” และบริษัทรับทำ SEO อีคอมเมิร์ซ ที่รับประกันผลลัพธ์ทันทีนั้นโกหกคุณ! โดยทั่วไปเว็บไซต์ eCommerce จะสามารถเริ่มเห็นผลภายใน 4 ถึง 6 เดือน อย่างไรก็ตาม ยิ่งบริษัทใช้ SEO E-commerce อย่างมีประสิทธิภาพนานเท่าใด ผลลัพธ์ใน search engine ก็จะยิ่งดีขึ้น

น่าเสียดาย โลกของการทำ SEO E-commerce นั้นเต็มไปด้วยตัวละครที่ควรหลบเลี่ยงซึ่งให้คำมั่นสัญญาเกินจริงแต่ทำไม่ได้จริง แต่เราให้ความสำคัญกับความโปร่งใส ความยุติธรรม และความซื่อสัตย์ในการตรวจสอบและการรายงาน SEO E-commerce ซึ่งเราจะบอกความจริงกับคุณว่าอะไรได้ผล อะไรไม่ได้ผล และค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ นอกจากนี้ เราให้บริการมานานกว่า 15 ปีแล้ว เราจะอยู่ไม่ได้นานขนาดนี้หากเราโกงลูกค้าของเรา! นั่นคือเหตุผลที่ธุรกิจต่าง ๆ ไว้วางใจ Digital Search Group ประเทศไทยในการทำ SEO E-commerce

การทำ SEO ไม่ได้มีความสำคัญเพียงกับกลยุทธ์การตลาดอีคอมเมิร์ซเท่านั้น แต่ยังจำเป็นมากอีกด้วย! งบประมาณการตลาดเพียงพอควรแบ่งไว้สำหรับ SEO อย่างชัดเจนเสมอ หากคุณมีร้าน E-commerce SEO ก็จะเป็นส่วนสำคัญอย่างมากต่อการแข่งขันกับคู่แข่ง

หน้าผลิตภัณฑ์ออนไลน์มีความสำคัญอย่างยิ่ง และการทำ SEO ใด ๆ ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับร้านค้าออนไลน์จะเน้นที่หน้าเหล่านี้เป็นอย่างมาก การเพิ่มประสิทธิภาพบนชื่อและคำอธิบาย (meta descriptions) มีความสำคัญอย่างมาก ดังนั้นควรเขียนข้อความและคำอธิบายผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์และมีดึงดูด เนื้อหาที่มีส่วนร่วมที่ดีจะทำให้เว็บไซต์ E-commerce มีประสิทธิภาพมากขึ้น