WordPress Development

การทํา SEO WordPress ให้ถูกวิธีนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่รายละเอียดนั้นจะค่อนข้างเยอะ และต้องตรวจสอบแต่ละขั้นตอนอย่างรอบคอบ เพราะเมื่อเผยแพร่ไปแล้ว การกลับมาแก้ไขอาจส่งผลร้ายต่อการจัดอันดับ วันนี้เราจะมาเล่าสู่กันฟังถึงการทํา SEO WordPress ก่อนเริ่มการสร้างเว็บไซต์ WordPress

SEO WordPress คืออะไร ช่วยให้ติดหน้าแรก Google ได้จริงไหม?

SEO WordPress คือ การปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ด้วยเทคนิคการทำ SEO เพื่อให้ติดอันดับ Google ได้ง่ายยิ่งขึ้นผ่าน WordPress ซึ่งเป็นระบบจัดการเนื้อหา หรือที่เราอาจคุ้นกันในชื่อ CMS (Content management system) ภายในโปรแกรม WordPress นี้มีตัวช่วยหรือปลั๊กอินจำนวนมากสำหรับการปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ให้เป็นไปตามหลักการทำ SEO ที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรก Google ได้

อย่างไรก็ตามก่อนการทำ WordPress ก็ควรมีเนื้อหาที่เหมาะสมตามขั้นตอนการทำ SEO เสียก่อน ซึ่งที่ Digital Search Group ประเทศไทยเรามีบริการรับทำ SEO WordPress แบบครบวงจร เมื่อคุณตัดสินใจใช้บริการกับเราแล้ว เรารับประกันได้เลยว่าคุณจะไม่ต้องห่วงเรื่องการทำ SEO อีกต่อไป วางใจให้เราจัดการได้เลย…

WordPress Development

บริษัทรับทำ SEO WordPress ในไทยที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพ

Digital Search Group ประเทศไทย ยินดีให้คำปรึกษาฟรี และพร้อมให้บริการรับทำ SEO WordPress ที่จะส่งมอบผลลัพธ์ที่เกิดคาด ในราคาที่จับต้องได้ เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด และถ้าคุณต้องการขยายธุรกิจมาสู่โลกออนไลน์ การมีเว็บไซต์ก็ตอบโจทย์ไม่ใช่น้อยเลย แบรนด์ของคุณจะได้รับยอดเข้าชมจำนวนมหาศาลและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจนสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง จากการที่คุณติดอันดับต้น ๆ ในผลการค้นหาบน Search Engines ด้วยกลยุทธ์ที่มีคุณภาพของเรา รับประกันด้วยผลงานและประสบการณ์โดยตรงในวงการมากว่า 15 ปี

DSG รับทำ SEO WordPress กับผู้เชี่ยวชาญ SEO ระดับมืออาชีพ

ติดต่อเพื่อรับคำปรึกษา และขอใบเสนอราคา ฟรี!!

หากคุณต้องการใช้บริการ SEO WordPress ของเรา โปรดติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของเรา พร้อมขอใบเสนอราคา ฟรี วันนี้เลย เราจะศึกษาและวิจัยธุรกิจของคุณ เพื่อหาแนวทางสร้างกลยุทธ์ท่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ พร้อมแซงหน้าคู่แข่งในอุตสาหกรรมและครอบคลุมตลาดทั้งในพื้นที่เขตบริการและขยายสู่วงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ติดต่อเลย

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้นการทํา SEO WordPress ให้มีประสิทธิภาพ

เราทำความรู้จักกับ SEO WordPress ไปพอสังเขปแล้ว ทีนี้มาดูกันว่าถ้าอยากจะเริ่มต้นการทํา WordPress ให้ถูกวิธีและมีประสิทธิภาพควรรู้อะไรก่อนบ้าง…โดยสิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้นการทำ SEO บน WordPress นั้นสามารถแบ่งได้ตามขั้นตอนก่อน ระหว่าง และหลังทำได้ดังนี้

ก่อนการทํา SEO WordPress

การตรวจสอบ Site health คือสิ่งสำคัญอันดับแรกก่อนที่จะไปลุยกับการทํา SEO WordPress อย่างเต็มรูปแบบ เพราะมันทำให้รู้ว่าตอนนี้เว็บไซต์ของคุณทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ด้วยซอฟต์แวร์ที่อัปเดตล่าสุดตามที่ให้โฮสต์เว็บมีประสิทธิภาพดีหรือไม่ ซึ่งสามารถเข้าไปเช็คได้ที่ Site health ของ WordPress ได้เลย หรือง่ายกว่านั้นคือให้คุณลงปลั๊กอินของ Site health มาเลย วิธีนี้จะคุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกทางเทคนิคมากมาะ และช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่บุคคลภายนอกสามารถใช้เพื่อช่วยปรับปรุงไซต์อีกด้วย ทั้งนี้ในขั้นตอนนี้สิ่งที่ควรตรวจสอบยังมีอีก ดังนี้

  • เช็คคุณภาพของโฮสต์ (Hosting)

คุณควรเช็คว่าเว็บไซต์ของคุณตอนนี้ใช้ Hosting ตัวไหน โดย Hosting ที่แนะนำคือ ควรอัปเดตเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ไม่ว่าจะเป็น PHP, MySQL, MariaDB หรือ HTTPS ซึ่งสามารถเช็คได้ใน Site health ได้เลย เพราะหากพิจารณาแล้วจะพบข้อดีมากมาย อาทิ

  1. ช่วยบูสต์ความเร็วในการแสดงผลของเว็บไซต์
  2. ช่วยให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  3. ทำให้เว็บไซต์อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
  4. มีข้อมูลสำหรับการตรวจสอบในอนาคต

หมายเหตุ: ก่อนจะทำการอัปเกรดทุกครั้ง สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ การสำรองข้อมูล

  • ต้องใช้ SSL และ HTTPS

เมื่อก่อนอาจไม่เป็นไรหากเว็บไซต์จะไม่มี SSL เพราะ Google ไม่ได้บังคับใช้ แต่ทุกวันนี้การมี SSL จะบ่งบอกว่าเว็บไซต์ของคุณมีความปลอดภัยและแฮกเกอร์หน้าไหนก็รุกรานข้อมูลไม่ได้ สังเกตง่าย ๆ คือสัญลักษณ์กุญแจล็อคบน URL bar และหากไม่มีก็อาจจะถูก Google ลงโทษโดยจะมีเครื่องหมาย Warning แทน ส่วน HTTPS คือลิงก์เต็มรูปแบบ ที่แสดงถึงความปลอดภัยของเว็บไซต์เช่นกัน และมีส่วนสำคัญต่อการจัดอันดับผลการค้นหาด้วย

การทำ WordPress ในส่วนนี้เป็นการเช็คว่าคุณได้เผลอไปตั้งค่าการมองเห็นของ Google หรือไม่ เพราะหากกดจะเท่ากับว่าเว็บไซต์ของคุณจะไม่ได้รับการจัดทำดัชนี เนื่องจากคุณปิดการมองเห็น Google จึงไม่สามารถเข้ามาดึงข้อมูลไปได้ และจะส่งผลต่อการจัดอันดับผลการค้นหา คือ จะไม่มีคุณอยู่ในหน้าไหนก็ตามของผลการค้นหานั่นเอง ดังนั้น อย่าลืมเข้าไปเช็คเด็ดขาด !! โดยขั้นตอนคือ ไปที่ Setting – Reading

การใส่ปลั๊กอินเยอะ ๆ เพราะเห็นคู่แข่งมีก็อยากมีบ้าง ต้องใส่ตาม ไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะในความเป็นจริงแล้ว ปลั๊กอินมีผลต่อการทํา SEO อย่างมาก ทั้งทำให้ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ช้าลง และความปลอดภัยของเว็บไซต์ เพราะหากคุณใช้ปลั๊กอินที่ไม่มีคุณภาพเว็บไซต์อาจติด Malware หรือแฮกเกอร์ก็อาจรุกรานคุณได้ง่าย ๆ ดังนั้น ใส่เท่าที่จำเป็นและเลือกที่มีคุณภาพ ทั้งนี้คอยตรวจสอบการอัปเดตปลั๊คอินอยู่เสมอ หากมีการอัปเดตเวอร์ชั่น

ความสวยงามอาจช่วยดึงความสนใจได้ แต่ SEO-Friendly นั้นสำคัญต่อการทํา SEO WordPress มากกว่า ดังนั้นมาดูสิ่งที่ควรคำนึงก่อนเลือกใช้กันก่อนว่ามีอะไรบ้าง…

  • UX/UI – การแสดงผลบนหน้าจอต่าง ๆ เป็นอย่างไร โดยเฉพาะบนหน้าจอมือถือ ควรใช้ Theme ที่มีความเป็น Mobile friendly เพราะในทุกวันนี้ ผู้คนมักใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว ดังนั้นบาง Theme อาจใช้งานได้ดีกับเดสก์ทอป แต่บนจอมือถือกลับไม่เวิร์ก
  • Performance – ตรวจสอบดูให้ดีว่าการทำงานของเว็บไซต์เป็นอย่างไรเมื่อใช้งานบน Theme นี้
  • Theme maker – ผู้สร้าง Theme ควรมีประวัติการให้บริการมานาน มีความน่าเชื่อถือ และอัปเดตเวอร์ชั่นของ Theme อย่างต่อเนื่อง

ระหว่างการทำ WordPress SEO

ในขั้นตอน การทํา WordPress ส่วนนี้หลัก ๆ แล้วคือการเพิ่มประสิทธิภาพภายในเนื้อหา ซึ่งก่อนอื่นคุณจะต้องสร้างเนื้อหาอย่างดีเสียก่อน จากนั้นก็สามารถนำมาเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาใน WordPress ตามขั้นตอนการทำ SEO ได้เลย ซึ่งก็จะมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ดังนี้

คุณควรคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้งานที่จะเข้ามาเป็นลูกค้าของคุณก่อนว่าต้องการอะไรจากการค้นหา เพื่อให้สามารถเจาะจงเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการได้ โดย Search Intents จะมีทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่

  • Navigational – เพื่อทำความรู้จักเว็บไซต์
  • Information – เพื่อหาความรู้และตอบคำถาม
  • Transactional – เพื่อซื้อสินค้าและบริการ
  • Commercial – เพื่อหาตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ

แน่นอนว่าก่อนจะมาทํา SEO WordPress จะต้องมีการทำ Keyword research มาแล้วอย่างดี และใส่คีย์เวิร์ดเป้าหมายที่ต้องการแรงก์ให้กระจายอยู่ในเนื้อหา และทุก ๆ องค์ประกอบของโครงสร้างเว็บไซต์ ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ Google ตรวจสอบและจัดทำดัชนีให้เราได้อย่างถูกต้อง ตรงกลุ่มเป้าหมาย ในส่วนนี้สิ่งสำคัญคือ ควร Bolding หรือทำตัวหนาให้คีย์เวิร์ดเป้าหมายไว้ เพราะจะทำให้ Google เข้าใจเว็บไซต์ได้มากขึ้นว่าคุณต้องการแรงก์คีย์เวิร์ดไหน อย่าแรงก์คีย์เวิร์ดมากกว่า 1 คำ เพราะจะกลายเป็น Cannibalization

อย่างไรก็ตาม จำนวนคีย์เวิร์ดเป้าหมายมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อการจัดอันดับได้ เนื่องจาก บอท Google จะมองว่าคุณตั้งใจยัดคีย์เวิร์ดเพื่อแรงก์อันดับ ให้ลองใช้คำที่ความหมายเหมือนกัน หรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องแทน

เทคนิคการทำ SEO WordPress นี้คือการจัดทำโครงสร้างของเว็บไซต์ให้อยู่ในรูปแบบของ SEO-Friendly มากที่สุด โดยโครงสร้างเว็บจะต้องมีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่

  • Heading – โดยจะมีตั้งแต่ H1, H2, H3 จนถึง H6 ถือเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ เพราะเป็นส่วนที่จะทำให้ผู้เข้าชมเข้าใจถึงแก่นสารของเว็บไซต์ได้มากที่สุด แถมยังช่วยผู้เข้าชมตัดสินใจว่าควรจะอยู่ในเว็บไซต์ของคุณต่อหรือไม่ โดยเฉพาะ H1 ที่จะต้องมีในทุก ๆ เพจ และมีได้แค่ 1 อันเท่านั้น
  • Title – คือส่วนที่ช่วยให้ผู้ใช้งานติดสินใจคลิกเข้ามายังเว็บไซต์ได้ดีที่สุด เป็นเหมือนหน้าบ้านของเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่โฆษณา และยังสามารถช่วยในการจัดอันดับผลการค้นหาได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรเขียนให้ดี เข้าใจง่ายและน่าดึงดูด ที่สำคัญคือควรมีคีย์เวิร์ดเป้าหมายอยู่ด้วย
  • Meta Description – คือส่วนที่ใช้อธิบายภาพรวมเพจในผลการค้นหาและโน้มน้าวผู้ใช้งานให้คลิกได้มากที่สุด เรียกง่าย ๆ คือเป็นโอกาสสร้างความประทับใจ ซึ่งหากคุณไม่เขียน Google ก็จะดึงเอาข้อมูลในเพจนั้นมาใส่ให้ แต่อาจจะไม่จับใจพอที่จะดึงผู้ใช้งานได้ ทั้งนี้หากเขียนเองก็จะสามารถใส่คีย์เวิร์ดเป้าหมายของคุณได้ เพื่อจะเป็นส่วนที่ช่วยจัดอันดับ SEO ได้

การใส่รูปภาพก็เป็นส่วนของ หลักการทำ SEO ที่ทำให้หน้าเว็บไซต์น่าสนใจยิ่งขึ้น แถมยังสามารถไปปรากฏที่การค้นหารูปภาพและลิงก์กลับมาที่เว็บไซต์อีกได้อีก แต่ขอบอกก่อนว่าโดยปกติแล้วบอท Google อ่านรูปภาพหรือสื่อมีเดียไม่เป็น ดังนั้นถ้าอยากให้รูปภาพของเราเป็นมากกว่าเครื่องประดับเว็บไซต์และให้บอท Google อ่านได้ คุณควรตั้งชื่อรูปภาพ และใส่ ALT tag ด้วยคีย์เวิร์ดเป้าหมายหรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องของคุณ

นอกจากนี้ ควรปรับขนาดของไฟล์รูปภาพให้เหมาะสม เพราะหากรูปใหญ่เกินไปก็จะส่งผลต่อความเร็วในการแสดงผลของเว็บไซต์

หลังการทํา SEO WordPress

Permalink คือ สิ่งที่กำหนดรูปแบบ URL ของเพจและโพสต์ของคุณว่าจะพาผู้เข้าชมไปอย่างไร
โดยใน Permalink ควรมีคีย์เวิร์ดที่ต้องการแรงก์อยู่ ไม่ควรมี Function words (a,an,the,and etc.) เพราะจะทำให้ยาวเกินไปและไม่เกี่ยวข้อง สิ่งสำคัญคือควรเป็นภาษาอังกฤษ เพราะหากใช้ภาษาไทย เมื่อแสดงผลออกมา URL จะเป็นภาษาต่างดาว และจะไม่ช่วยแรงก์อันดับเลย

อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่เปลี่ยน Permalink จากค่าเริ่มต้น URL ของเพจหรือโพสต์นั้นก็จะเป็น example.com/?123 ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาและคีย์เวิร์ดที่ต้องการแรงค์ และส่งผลต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์คุณเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นหากจะกลับมาเปลี่ยนก็จะต้องระมัดระวังเอามาก ๆ เพราะอาจส่งผลต่อการจัดอันดับ SEO ดังนั้นก่อนจะกดเผยแพร่ ตรวจทานจุดนี้ได้ดีก่อนจะดีที่สุด

เป็นหนึ่งในขั้นตอนการทำ SEO เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพของเว็บไซต์ให้บอท Google เห็นว่าเนื้อหาของแต่ละเพจนั้นมีความเชื่อมโยงและอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน การเชื่อมด้วย Internal Link นั้นจะช่วยคุณได้ดีเลย วิธีนี้จะทำให้ Google เข้าใจเว็บไซต์ของคุณ และจัดทำดัชนีให้ตรงเป้าหมาย ตลอดจนช่วยจัดอันดับ SEO ให้ดีขึ้นด้วย

การทำ Sitemap ก็มีส่วนสำคัญต่อวิธีทำ SEO WordPress ไม่น้อยเลย นอกจากจะช่วยผู้ใช้งานสามารถเลือกดูข้อมูลได้สะดวกขึ้นแล้ว ยังช่วยให้บอท Google เข้ามาเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะกับ URL ที่เข้าถึงได้ยากหรือไม่ลิงก์เชื่อมมาหา

จากที่เราได้เล่าสู่กันฟังถึงสิ่งที่ควรรู้ก่อนการทำ WordPress จะเห็นได้ว่าต้องใช้ความละเอียดและความรอบคอบสูงมาก สำหรับมือใหม่ที่อยากลองทำควรศึกษารายละเอียดให้ดีว่า SEO WordPress คืออะไร เพราะยังมีสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจอีกมากมาย หรือไว้ใจให้ผู้เชี่ยวชาญทํา WordPress อย่าง Digital Search Group ประเทศไทยทำก็ได้ เพราะเราเข้าใจและมีประสบการณ์ในการรับทำ SEO WordPress มาอย่างยาวนาน

ข้อควรระวังก่อนการสร้างเว็บไซต์ WordPress

แม้ว่าเราจะเข้าใจภาพรวมของการทํา SEO WordPress แล้ว แต่ก็ยังมีข้อควรระวังที่ต้องทำความเข้าใจอีก ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะหากคุณเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา อาจเป็นเรื่องยากเกินมือที่จะแก้ไขให้กลับมาดีเหมือนเดิม อันดับต้นของหน้าแรกบน Google ที่เคยอยู่อาจร่วงหรือหายไปเลยก็ได้ ดังนั้นรู้ไว้ไม่เสียหาย…

หลีกเลี่ยง Cannibalization ไม่แข่งกับตัวเอง

การเขียน WordPress หรือการทํา WordPress ในเพจหรือโพสต์หนึ่ง เพื่อให้ทำถูกต้องตามวิธีการทำ SEO แล้วนั้นควรจะแรงก์เพียงแค่คีย์เวิร์ดเดียวเท่านั้น ไม่ควรแรงก์มากกว่า 1 คำ โดยเอาคีย์เวิร์ดจากเพจอื่นภายในเว็บไซต์มา เพราะจะทำให้เกิด Cannibalization หรือเรียกง่าย ๆ คือ การตั้งตัวเองเป็นคู่แข่งนั่นเอง และทำให้ Google หรือ Search engines อื่น ๆ จะสับสนว่าควรจัดอันดับเพจไหนให้ดี ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงหรือใช้คีย์เวิร์ดแบบ Long tail แทน

วิธีการทำ SEO แบบจับยัดคีย์เวิร์ด

การจับยัดคีย์เวิร์ดเป้าหมาย คือการใส่คีย์เวิร์ดซ้ำ ๆ จำนวนมากทั่วทั้งเพจ เป็นวิธีทำ SEO ที่อาจเห็นได้ทั่วไปเลย แต่ขอบอกไว้ตรงนี้ว่าไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะสุดท้ายแล้วบอท Google จะจับได้และมองว่าเว็บไซต์ของคุณต้องการจัดการการจัดอันดับ ท้ายที่สุดเว็บไซต์อาจจะถูกลงโทษ ทำให้อันดับร่วง หรือไม่ก็อาจจะไม่ถูกจัดทำดัชนี ทำให้ไม่พบผลการค้นหาใน Google

รูปภาพเยอะถ่วงความเร็วของเว็บไซต์

อย่างที่เคยได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่าบอท Google อ่านรูปภาพไม่เป็น เท่ากับว่าการใส่รูปภาพเยอะ ๆ อาจไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ ดังนั้นใส่เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นแล้วไปเน้นที่เนื้อหา พยายามไม่ให้ผิดทำหลักการทำ SEO อาจจะดีกว่า

กลับมาเปลี่ยน Slug ใน Permalink โดยไม่ Redirect 301

เมื่อเผยแพร่เพจไปแล้ว แต่อยากกลับมาเปลี่ยน Slug ใน Permalink นั้นถือว่าไม่ควรทำ เพราะหากเปลี่ยนทันที เว็บไซต์จะแสดงผลเป็น Error 404 นอกจากจะส่งผลเสียต่อการจัดอันดับในผลการค้นหาแล้ว ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ก็จะหายไปเช่นกัน ดังนั้นหากจำเป็นต้องกลับมาเปลี่ยน Slug ใน Permalink ควรทำการ Redirect เป็น 301 ก่อน

สำหรับการทํา SEO WordPress แล้ว หากต้องการจะ Redirect ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงโหลดปลั๊กอิน Redirect เข้ามาก็สามารถใช้ได้เลยทันที

**หมายเหตุ: Slug คือส่วนต่อท้ายของ Permalink เช่น example.com/blog ส่วนของคำว่า Blog คือ Slug

อย่างไรก็ตาม หากคุณมองว่าการทํา SEO WordPress นั้นค่อนข้างละเอียด และต้องใช้ความรอบคอบเป็นอย่างมาก เราขอแนะนำบริการรับทำ SEO WordPress ของ Digital Search Group ประเทศไทย เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเรื่องเหล่านี้อยู่ ตลอด 15 ปีในแวดวงนี้เราสั่งสมความรู้ ประสบการณ์ และผลงานที่ประสบความสำเร็จมากมาย ดังนั้นวิธีทำ SEO จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเราเลย รับประกันได้

ติดต่อ Digital search group ประเทศไทย เพื่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการรับทำ SEO WordPress

FAQs: การทํา SEO WordPress

สำคัญมาก เพราะการทํา SEO WordPress คืออีกด่านที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อหาและโครงสร้างของเพจหรือโพสต์นั้นให้ดียิ่งขึ้นตามหลักการทำ SEO ก่อนจะเผยแพร่ ด้วยเครื่องมือภายในระบบและปลั๊กอินต่าง ๆ ที่สามารถติดตั้งเข้ามาเสริมได้ ทำให้วิธีการทำ SEO นั้นง่ายและได้ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังนั้นหากคุณเพจหรือโพสต์ของคุณได้ผ่านการทำ WordPress ก็ให้มั่นใจได้เลยว่าบทความนั้นจะติดหน้าแรกบน Google อย่างแน่นอน

ควรอย่างยิ่ง เพราะจากที่เราได้บอกไปวิธีทำ SEO นั้นค่อนข้างละเอียด ต้องใช้ความรอบคอบและประสบการณ์อย่างมากในการทำเพื่อให้งานเขียน WordPress นั้นได้ผลและติดอันดับ Google ดังนั้นการใช้บริการรับทำ SEO WordPress ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ผู้ให้บริการมี คุณจะสามารถมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของคุณจะติดอันดับ Google ได้อย่างแน่นอน และบริการที่เราอยากจะแนะนำ ก็คงหนีไม่พ้นบริการทำ SEO จาก Digital search group ประเทศไทย บริการที่มีคุณภาพ การันดีด้วยประสบการณ์การสร้างเว็บไซต์ WordPress กว่า 15 ปีและผลงานที่ประสบความสำเร็จมากมาย ติดต่อเรา เพื่อสอบถามเพิ่มเติม

การทํา SEO WordPress ทำได้ง่าย ๆ ได้ดังนี้…

  • เลือกธีมที่เหมาะกับเครื่องมือค้นหา และอุปกรณ์ที่ใช้ เช่น สมาร์ทโฟน เดสก์ทอป
  • ใช้ปลั๊กอิน SEO เฉพาะเท่าที่จำเป็น
  • เปลี่ยนโครงสร้าง ‘Permalink’ ของคุณให้มีคีย์เวิร์ด กระชับ เข้าใจได้ทันที
  • สร้าง ‘แผนผังเว็บไซต์’ เพื่อง่ายต่อการจัดทำดัชนี
  • ใช้ Heading ทั่วทั้งเนื้อหาของคุณ
  • สร้างเนื้อหาของคุณโดยใช้คีย์เวิร์ด
  • ลิงค์ Internal link และ External link ที่เป็นประโยชน์

ว่ากันตามหลักการทำ SEO แล้ว Heading 1 ถือเป็นเทคนิคการทำ SEO ที่สำคัญมาก ๆ เพราะมันมีส่วนในการตัดสินใจของผู้เข้าชมที่จะอยู่หน้าเพจของคุณต่อหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นบอท Google จะมาสามารถเข้าใจได้ว่าเว็บไซต์ของคุณในหน้านี้กำลังพูดถึงอะไร Heading 1 จะทำให้บอทเข้าใจคุณได้มากยิ่งขึ้นและส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณ ข้อแนะนำสำหรับการใช้ Heading 1 คือในหนึ่งเพจหรือโพสต์คือต้องมี Heading 1 และมีได้เพียง 1 อันเท่านั้น

เคล็ดลับการทํา SEO WordPress ให้เป็นมิตรต่อ SEO นั้นไม่ยากเลย มีดังนี้…

  • ใช้ธีมที่เหมาะสมต่อผู้ใช้งานทุกอุปกรณ์
  • ใส่คีย์เวิร์ดเป้าหมายให้กระจายบนเนื้อหาเว็บไซต์ ในจำนวนที่เหมาะสม
  • ใช้ Heading และต้องมีคีย์เวิร์ดเป้าหมายประกอบ
  • เขียน Meta description ให้มีคีย์เวิร์ดประกอบและมีเนื้อหาจับใจเพื่อเพิ่มจำนวนคลิก
  • มุ่งเน้นที่การเพิ่มความสามารถในการอ่านเนื้อหา (Readability)
  • ปรับปรุงเวลาในการโหลดหน้า

Similar Posts